1. หาที่ปรึกษาและหัวข้อการวิจัย
ขั้นตอนแรกต้องอีเมลนัดคุยกับอาจารย์ที่ต้องให้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ พออาจารย์ตกลงแล้วอาจจะเริ่มโดยการลงวิชา Directed Reading หรือ Directed Research เพื่ออ่านเปเปอร์หาหัวข้อที่สนใจ รวมทั้งเริ่มเตรียมงานวิจัยล่วงหน้าไปส่วนหนึ่ง
นิสิต ป.เอกจะต้องสอบวัดความรู้เชิงลึก 2 หัวข้อก่อนการสอบหัวข้อ คือการทดสอบความรู้เชิงลึกที่เกี่ยวกับหัวข้อวิทยานิพนธ์ และนำคำตอบที่ส่งไปควบรวมเป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์เพื่อความสมบูรณ์ด้วย
การสอบวัดความรู้เชิงลึก
2. การสอบหัวข้อ หรือการสอบโครงร่าง
นิสิตป.โทจะต้องสอบหัวข้อภายใน 2 ปีการศึกษา
นิสิตป.เอกจะต้องสอบหัวข้อภายใน 3 ปีการศึกษา
ขั้นตอนในการขอสอบโครงร่างวิทยานิพนธ์(หลังโควิด).doc
การสอบหัวข้อเป็นการสอบแบบปากเปล่าโดยนิสิตต้องนำเสนอ presentation เวลา 15-20 นาที เพื่อทบทวนเรื่องทั้งหมด และพูดถึง Research objectives และสมมติฐานให้ชัดเจนที่สุด ตอบคำถามต่างๆ จากกรรมการซึ่งจะเน้นว่าเป็นโครงการวิจัยที่สามารถทำได้สำเร็จ จบในกรอบเวลาที่เหมาะสม
นิสิตต้องปรึกษากับที่ปรึกษาว่าพร้อมสอบในเทอมนี้หรือยัง แล้วค่อยดำเนินการต่อ ขั้นตอนค่อนข้างจะยุบยับเล็กน้อยดังนี้
- ที่ปรึกษาจะต้องหากรรมการให้
- คนใน 1 คน (ทำหน้าที่เป็นประธานสอบ)
- คนนอก 1 คน ถ้าคนนอกยังไม่ได้อยู่ในลิสต์ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงฯ จะต้องทำเรื่องแต่งตั้งก่อน
- สำหรับนิสิตป.เอก ที่ปรึกษาจะต้องหากรรมการมาเพิ่มอีก 2 คน
- Reference: https://www.grad.chula.ac.th/thesis.php?id=7
- ทำเรื่องแต่งตั้งกรรมการสอบโครงร่าง คุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาและพี่บี ให้อาจารย์อีเมลหาพี่บีและ cc นิสิต เพื่อทำเรื่องแต่งตั้งกรรมการสอบโครงร่างอย่างเป็นทางการก่อนสอบโครงร่าง
- อีเมลนัดวันเวลาสอบโดยตรวจสอบว่าสอบวันสุดท้ายได้วันไหนก่อน Block ไว้ 90 นาที สำหรับป. โท และ 2 ชั่วโมงสำหรับป.เอก เผื่อว่าต้องใช้เวลานานตอนที่ช่วยแก้ชื่อหัวข้อ วัตถุประสงค์การวิจัย และสมมติฐาน เพราะคณะมักจะดูตรงนี้ละเอียดก่อนที่จะอนุมัติ
-
เขียนจดหมายเชิญ กรอกแล้วส่งให้พี่บีดำเนินการต่อ (อีเมลอย่างเดียวก็น่าจะได้)
จมเชิญกรรมการสอบโครงร่าง.docx
-
cc พี่โดนัทในอีเมล เพื่อทำเรื่องเบิกค่าตอบแทนกรรมการภายนอก
- เขียนเล่มหัวข้อส่งให้ที่ปรึกษาอ่านจนเป็นที่พอใจก่อน แล้วส่งให้กรรมการอ่านก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะกรรมการจะได้อ่านได้ทัน
- วันสอบ
- นิสิตจะพรีเซนต์หัวข้อตั้งแต่ Literature review ถึง proposed approach (หรือ preliminary results ถ้ามี) ให้ present ไม่เกิน 30 นาที
- กรรมการจะถามคำถามต่าง ๆ ถ้าตอบได้โอเคและผ่าน กรรมการและนิสิตจะร่วมกันกรอกฟอร์มเสนออนุมติโครงร่าง (18ABC 18กขค สำหรับป.โท 19ABC 19กขค สำหรับป.เอก)
- อีเมลฟอร์มเป็น .docx ให้อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์จะส่งฟอร์มต่อให้ภาคอนุมัติ (ทางภาคอาจจะให้แก้ไข แต่เดี๋ยวอาจารย์จะจัดการให้เอง เพื่อที่จะได้ไม่ลำไย) และจากนั้นภาคจะส่งให้คณะอนุมัติต่อไป
3. ทำวิจัย และตีพิมพ์เปเปอร์
ทำงานวิจัยจนเสร็จ เขียนเปเปอร์เพื่อตีพิมพ์ใน conference proceedings หรือ journal ให้อาจารย์ที่ปรึกษาเป็นคนแนะนำว่าควรจะส่งที่ไหนเมื่อไร ในระหว่างนี้อาจจะเขียนเล่ม thesis ไปด้วย
ทั้ง ป.โท และ ป.เอกต้องตีพิมพ์อย่างน้อย 1 ชิ้น ยกเว้นถ้าเป็นป.เอกแบบที่ 1 (research only) ต้องตีพิมพ์ 2 งาน (อ้างอิงประกาศ https:///www.grad.chula.ac.th/download/02_Chula_rule/rule_4_61.pdf)
- Journal ต้องมาจาก TCI1, TCI2, Scopus, ISI หรือแหล่งอื่น ๆ ตามกฎ